แม้ประเทศไทยเราจะไม่ใช่พื้นที่เสี่ยงภัยแผ่นดินไหวมากนัก แต่จากเหตุการณ์แผ่นดินไหวในประเทศพม่าแล้วส่งผลกระทบถึงไทยนั้น ทำให้เราเห็นว่าการเลือกกระเบื้องที่มีความแข็งแรงมีผลต่อความปลอดภัยและความคงทนของอาคาร ทั้งนี้ คุณสมบัติของวัสดุและเทคนิคการติดตั้งล้วนมีบทบาทสำคัญในการเพิ่มความทนทานต่อแรงสั่นสะเทือน บทความนี้จะนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับกระเบื้องประเภทต่าง ๆ ที่มีความแข็งแรงและทนทานต่อแผ่นดินไหวได้ดีที่สุด
- กระเบื้องเซรามิค
กระเบื้องเซรามิคที่ผลิตด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ได้รับการพัฒนาให้มีความยืดหยุ่นมากกว่ากระเบื้องดั้งเดิม โดยคุณสมบัติสำคัญของกระเบื้องประเภทนี้คือการผสมโพลิเมอร์พิเศษเข้าไปในเนื้อกระเบื้อง ทำให้สามารถรับแรงสั่นสะเทือนได้ดีโดยไม่เกิดรอยแตกร้าว นอกจากนี้ น้ำหนักที่เบากว่ากระเบื้องเซรามิคทั่วไปยังช่วยลดแรงกดทับบนโครงสร้างอาคาร ทำให้มีประสิทธิภาพสูงในการรองรับการเคลื่อนตัวของอาคารระหว่างเกิดแผ่นดินไหวได้ดียิ่งขึ้น
- กระเบื้องพอร์ซเลนขนาดเล็ก
กระเบื้องพอร์ซเลนมีความแข็งแกร่งสูงกว่ากระเบื้องเซรามิคทั่วไปเนื่องจากกระบวนการผลิตที่ใช้อุณหภูมิสูงและวัตถุดิบคุณภาพดี ประเด็นสำคัญคือการเลือกใช้กระเบื้องพอร์ซเลนขนาดไม่เกิน 30×30 เซนติเมตร จะช่วยกระจายแรงได้ดีกว่ากระเบื้องขนาดใหญ่ เนื่องจากมีรอยต่อจำนวนมากที่ทำหน้าที่เป็นจุดรับและกระจายแรงสั่นสะเทือน ความหนาแน่นสูงและอัตราการดูดซึมน้ำต่ำของพอร์ซเลนยังเพิ่มความแข็งแรงและความทนทานต่อสภาพแวดล้อมต่าง ๆ อีกด้วย
- กระเบื้องยางและไวนิล
กระเบื้องยางและไวนิล มีคุณสมบัติโดดเด่นในด้านความยืดหยุ่น กระเบื้องประเภทนี้สามารถรับแรงสั่นสะเทือนได้ดีเยี่ยมเนื่องจากธรรมชาติของวัสดุที่มีความยืดหยุ่นสูง น้ำหนักที่เบากว่ามากเมื่อเทียบกับกระเบื้องเซรามิคช่วยลดภาระต่อโครงสร้างอาคารอย่างมีนัยสำคัญ นอกจากนี้ ยังทนต่อการกระแทกได้ดีและซ่อมแซมได้ง่าย ทำให้เป็นตัวเลือกที่เหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับพื้นที่ที่มีความเสี่ยงต่อแผ่นดินไหวสูง
- กระเบื้องคอมโพสิต
กระเบื้องคอมโพสิตเป็นนวัตกรรมวัสดุที่ผสมผสานข้อดีของวัสดุหลายชนิดเข้าด้วยกัน กระเบื้องประเภทนี้ผลิตจากการผสมระหว่างพลาสติก เส้นใยธรรมชาติ และแร่ธาตุ ทำให้มีทั้งความแข็งแรงและความยืดหยุ่นในตัวเดียวกัน คุณสมบัติการทนต่อแรงกระแทกและการสั่นสะเทือนของวัสดุคอมโพสิตอยู่ในระดับสูง ขณะที่น้ำหนักอยู่ในระดับปานกลาง ไม่สร้างภาระมากเกินไปให้กับโครงสร้างอาคาร ทำให้เป็นทางเลือกที่สมดุลระหว่างความแข็งแรงและการรองรับแรงสั่นสะเทือน
ตัวอย่างกระเบื้องคอมโพสิต เช่น กระเบื้องไวนิล SPC หรือ Stone Plastic Composite เป็นกระเบื้องไวนิลนวัตกรรมใหม่ ที่ผลิตขึ้นมาจากการผสมผสานระหว่างวัสดุ 2 ชนิด ได้แก่ PVC (Polyvinyl Chloride) และหินปูน จึงมีทั้งความแข็งแกร่งและความยืดหยุ่นในตัว แตกหักได้ยากกว่ากระเบื้องปกติทั่วไป ปัจจุบันได้รับความนิยมสูงมากในการใช้ปูพื้นห้องต่าง ๆ ภายในที่อยู่อาศัย เนื่องจากเป็นกระเบื้องคุณภาพ ราคาย่อมเยา และมีลายไม้ที่สวยงามให้เลือกหลากหลาย
เทคนิคการติดตั้งเพื่อเพิ่มความทนทาน
วิธีการติดตั้งมีความสำคัญไม่น้อยไปกว่าการเลือกวัสดุกระเบื้องเลย การใช้กาวยึดกระเบื้องชนิดยืดหยุ่นสูง (flexible adhesive) เป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้กระเบื้องสามารถรับแรงสั่นสะเทือนได้ดีขึ้น การเพิ่มระยะห่างของยาแนวให้กว้าง 3-5 มิลลิเมตร ร่วมกับการใช้ยาแนวชนิดยืดหยุ่นพิเศษ (flexible grout) จะช่วยรองรับการเคลื่อนตัวของโครงสร้างได้ดียิ่งขึ้น
การติดตั้งระบบแผ่นรองกันสะเทือน (anti-fracture membrane) ใต้กระเบื้องก็เป็นอีกเทคนิคที่มีประสิทธิภาพสูง เนื่องจากทำหน้าที่ดูดซับแรงสั่นสะเทือนก่อนที่จะถึงตัวกระเบื้อง นอกจากนี้ การทำจุดขยายตัว (expansion joints) ทุก 4-6 เมตร จะช่วยรองรับการเคลื่อนตัวของโครงสร้างในระหว่างเกิดแผ่นดินไหว ลดความเสี่ยงของการแตกร้าวที่กระเบื้องได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ปัจจัยสำคัญที่ควรพิจารณา
การเลือกกระเบื้องที่เหมาะสมสำหรับพื้นที่เสี่ยงภัยแผ่นดินไหวควรพิจารณาปัจจัยเพิ่มเติม ได้แก่ ระดับความเสี่ยงของแผ่นดินไหวในพื้นที่นั้น ลักษณะโครงสร้างของอาคารและวัสดุรองพื้น วัตถุประสงค์การใช้งานพื้นที่และความหนาแน่นของการสัญจร งบประมาณทั้งในการติดตั้งและการบำรุงรักษาระยะยาว รวมถึงความต้องการด้านความสวยงามและการตกแต่ง
สรุป
กระเบื้องที่มีความทนทานต่อแผ่นดินไหวสูงสุดคือกระเบื้องที่สามารถรองรับการเคลื่อนไหวของโครงสร้างได้โดยไม่เกิดความเสียหาย ไม่ว่าจะเป็นกระเบื้องเซรามิคสมัยใหมม่ที่ผสานเทคโนโลยียืดหยุ่น กระเบื้องพอร์ซเลนขนาดเล็ก กระเบื้องยางและไวนิล หรือกระเบื้องคอมโพสิต การเลือกวัสดุที่เหมาะสมร่วมกับการใช้เทคนิคการติดตั้งที่ถูกต้องจะช่วยเพิ่มความปลอดภัยและลดความเสียหายจากแผ่นดินไหวได้อย่างมีประสิทธิภาพ
อย่างไรก็ตาม ในการตัดสินใจที่เหมาะสมที่สุด เจ้าของบ้านหรือเจ้าของอาคารสถานที่ควรปรึกษาวิศวกรโครงสร้างหรือผู้เชี่ยวชาญด้านการปูกระเบื้องที่มีประสบการณ์ เพื่อให้ได้คำแนะนำที่เฉพาะเจาะจงกับอาคารและสภาพแวดล้อมของตนมากที่สุดด้วย
สำหรับเจ้าของบ้าน หรือเจ้าของธุรกิจ ที่ได้รับความเสียหายจากแผ่นดินไหว และต้องการกระเบื้องคุณภาพเพื่อใช้ในการปรับปรุง ซ่อมแซม รีโนเวท สามารถปรึกษาขอคำแนะนำจากทีมงาน PORCELA ได้ผ่านช่องทางออนไลน์ตลอด 24 ชั่วโมง เรามีกระเบื้องคุณภาพ หลากสี หลายลายให้เลือกใช้งานตอบโจทย์ได้กับทุกพื้นที่