กระเบื้องไวนิล กระเบื้องเซรามิค 2

กระเบื้องไวนิล VS กระเบื้องเซรามิก อะไรดีกว่ากัน?

สำหรับคนที่มีแผนจะสร้างบ้าน หรือกำลังจะรีโนเวทบ้าน การตัดสินใจว่าจะเลือกใช้กระเบื้องชนิดไหนดีนั้น ถือเป็นโจทย์ที่ยากไม่น้อย เพราะหากตัดสินใจผิดพลาดไป ก็จะทำให้ต้องมาเสียใจภายหลัง รวมถึงต้องเสียค่าใช้จ่ายและเวลาในการแก้ไขเพิ่มเติมได้

ทั้งนี้ หากจะพูดถึงกระเบื้องยอดนิยมในปัจจุบัน กระเบื้องไวนิล และ กระเบื้องเซรามิกนั้น ถือว่าเป็น 2 ชนิดกระเบื้องที่มักได้รับการคิดถึงเป็นอันดับต้นๆ ซึ่งเพื่อให้ทุกคนเลือกตัดสินใจได้มากขึ้นว่า

ควรจะเลือกใช้กระเบื้องชนิดไหนดี เราจึงจะพาไปดูความแตกต่างและความโดดเด่นกันแบบละเอียดว่า กระเบื้องทั้ง 2 ชนิดนี้ กระเบื้องชนิดไหน โดดเด่นกว่ากัน

1.ลวดลายและความสวยงาม

ในแง่ของความสวยงามนั้น กระเบื้องไวนิลและกระเบื้องเซรามิก ถือว่าโดดเด่นไม่แพ้กัน เพราะปัจจุบันเทคโนโลยีการผลิตกระเบื้องนั้นทันสมัยมากขึ้น จึงทำให้สีสันที่พิมพ์ออกมาบนกระเบื้องมีความสวยงามน่าใช้

แต่ถ้าจะพูดถึงความหลากหลายของลวดลายแล้วล่ะก็ กระเบื้องเซรามิกจะมีมากกว่า โดยมีทุกรูปแบบ ทุกสีสัน มีความแปลกใหม่มากๆ ถึงขั้นสามารถพิมพ์ลายที่ต้องการลงไปเองได้เลย

ต่างจากกระเบื้องไวนิล ส่วนใหญ่จะเน้นไปทางลวดลายไม้ และธรรมชาติมากกว่า ไม่ค่อยมีลวดลายอื่นๆ ให้เลือกใช้ ดังนั้น ถ้าต้องการลวดลายกระเบื้องที่หลากหลายแล้ว กระเบื้องเซรามิกคือคำตอบที่เหมาะที่สุด

2.ฟังก์ชั่นการใช้งาน

ถ้าสำหรับงานปูพื้น กระเบื้องเซรามิกและกระเบื้องไวนิลนั้นตอบโจทย์ฟังก์ชั่นการใช้งานได้โดดเด่นไม่แพ้กัน เพราะมีความแข็งแรง มีรุ่นความหนาให้เลือกหลากหลาย เหมาะกับทุกห้องทุกพื้นที่ได้

แต่ถ้าเป็นในแง่ของการใช้งานปูผนัง โดยส่วนใหญ่แล้ว กระเบื้องเซรามิกจะตอบโจทย์กว่า เพราะมีประเภทของกระเบื้องปูผนังให้เลือกใช้งานด้วย

ผิดกับกระเบื้องไวนิล ที่ส่วนใหญ่แล้วนิยมใช้งานในด้านการปูพื้นมากกว่า ดังนั้น หากต้องการฟังก์ชั่นการใช้งานทั้งปูพื้นปูผนังในทุกๆ พื้นที่ล่ะก็ กระเบื้องเซรามิกจะตอบโจทย์ความต้องการได้มากกว่า

3.ความสามารถในการกันน้ำและความร้อน

ทั้งกระเบื้องเซรามิกและกระเบื้องไวนิลนั้น มีคุณสมบัติในการกันน้ำและความร้อนใกล้เคียงกัน ด้วยส่วนหนึ่งเป็นเพราะกระเบื้องไวนิลนั้น จริงๆ ก็ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเลียนแบบกระเบื้องเซรามิก จึงได้พยายามทำให้คุณสมบัติมีความคล้ายคลึงกับกระเบื้องเซรามิกมากที่สุด

แต่ทั้งนี้ สิ่งที่ต้องคำนึงถึงก็คือ “รอยต่อของกระเบื้อง” ที่ไม่ว่าจะเป็นกระเบื้องเซรามิกหรือกระเบื้องไวนิล ก็ต้องมีรอยต่อเกิดขึ้นด้วยกันทั้งนั้น และรอยต่อนี้เองที่สามารถทำให้น้ำซึมลงไปได้ง่าย แต่สำหรับกระเบื้องเซรามิกจะมีการใช้ยาแนวปิดทับอีกชั้น

ดังนั้น สำหรับความสามารถในการป้องกันน้ำ ซึมจนสร้างการผุกร่อน บวม เสียหาย กระเบื้องเซรามิกจึงทำได้ดีกว่า ในส่วนของการกันความร้อนจะค่อนข้างใกล้เคียงกัน แต่ก็ต้องเลือกกระเบื้องไวนิลที่มีคุณสมบัติกันความร้อนได้ดี

เพราะหากเป็นไวนิลเกรดไม่ดี ก็อาจก่อให้เกิดการละลาย ลุกลามไฟ และมีสารพิษตกค้างได้ ซึ่งปัญหานี้จะมีกับกระเบื้องเซรามิก เพราะผลิตจากวัสดุธรรมชาติร้อยเปอร์เซ็นต์เต็ม

4.การดูแลทำความสะอาด

แม้ยาแนวจะทำให้กระเบื้องเซรามิกชนะกระเบื้องไวนิลในเรื่องของการป้องกันน้ำซึมทะลุกระเบื้อง แต่ก็เป็นสิ่งที่ทำให้เกิดคราบความสกปรกได้ง่ายแทน และทำความสะอาดยากกว่ามาก

นอกจากนั้นแล้ว ตัววัสดุที่เป็นพลาสติกบริสุทธิ์ที่ใช้ทำกระเบื้องไวนิล ยังได้รับการออกแบบมาให้ดูแลทำความสะอาดง่ายกว่า จึงส่งผลให้ในกระเบื้องไวนิล ดูแลทำความสะอาดง่ายกว่ากระเบื้องเซรามิก

โดยการทำความสะอาดกระเบื้องเซรามิกที่ดีนั้น ควรต้องใช้น้ำยาทำความสะอาดยาแนวที่มีสารฟอกขาวด้วย เพื่อให้ยาแนวขาวสะอาด และไม่ทำให้บ้านหรือพื้นที่ดูหม่นหมอง

5.อายุการใช้งาน

กระเบื้องไวนิลนั้น แม้จะไม่ได้ทำมาจากหิน ดิน ทราย เผาด้วยอุณหภูมิความร้อนสูงแบบกระเบื้องเซรามิก แต่ก็มีความแข็งแรงไม่น้อยเลย โดยอายุการใช้งานจะอยู่ที่ประมาณ 10 ปีขึ้นไป

แต่ก็ขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้งานและการดูแลรักษาด้วย แต่อย่างไรก็ตาม แม้ 10 ปีจะดูคุ้มค่าแล้ว ถ้าเทียบกับกระเบื้องเซรามิกยังถือว่าห่างชั้นกันพอสมควร

เพราะอายุการใช้งานของกระเบื้องเซรามิก ที่ดูแลอย่างดีนั้นจะสามารถมีอายุได้ยาวนานถึงกว่า 40 ปีเลยทีเดียว หรือพูดง่ายๆ ก็คือ ถ้าดูแลดีล่ะก็ ปูครั้งเดียวใช้งานได้ตลอดชีวิตเลย

ดังนั้น หากต้องการความคุ้มค่า ไม่ต้องการเปลี่ยนกระเบื้องบ่อยใช้งานยาวๆ ตลอดไป กระเบื้องเซรามิกจะตอบโจทย์มากที่สุด

6.การติดตั้ง

กระเบื้องเซรามิก ที่ว่าใช้งานได้ยาวนานหลายสิบปีนั้น ปัจจัยสำคัญคือต้องติดตั้งอย่างถูกวิธีด้วย เพราะการติดตั้งกระเบื้องเซรามิก ไม่ใช่เรื่องง่ายนัก

ต้องอาศัยความชำนาญและความพิถีพิถัน ต้องมีการปรับพื้นให้เรียบ ต้องสำรวจพื้นที่และปูแบบไม่ให้มีการระเบิด หลุดร่อน แตกหักง่าย

ซึ่งถ้าเทียบกับการติดตั้งกระเบื้องไวนิลแล้ว ถือว่ายากกว่า เพราะกระเบื้องไวนิลนั้นติดตั้งได้ด้วยตัวเอง ยิ่งเป็นรุ่นเทคโนโลยีคลิกล็อกด้วยแล้ว ยิ่งติดตั้งง่ายมากโดยไม่ต้องใช้กาวใดๆ เลย สามารถนำมาวางต่อกันให้ตรงล็อกแล้วปูต่อไปเรื่อยๆ ทับกระเบื้องเดิมได้เลย

ดังนั้น ถ้าโจทย์คือต้องการกระเบื้องที่ติดตั้งง่าย ไม่ต้องง้อช่าง อยากติดตั้งครีเอทเองแบบ DIY ล่ะก็ กระเบื้องไวนิลคือตัวเลือกที่ดีกว่ากระเบื้องเซรามิก

7.ขนาดและราคา

กระเบื้องไวนิลส่วนใหญ่ที่เราเห็นกันในท้องตลาดจะเป็นแผ่นยาวสี่เหลี่ยมผืนผ้าผอมๆ ไม่ค่อยเห็นรูปทรงอื่นเท่าไร ต่างจากกระเบื้องเซรามิก ที่มให้เลือกหลากหลายรูปทรง เล็กใหญ่ ทั้งยังสามารถตัดขนาดได้ตามต้องการอีกต่างหาก

ดังนั้น ถ้าต้องการความหลากหลายของขนาดและรูปทรงกระเบื้อง ซึ่งส่งผลต่อมิติ มุมมอง ความกว้าง และความปลอดโปร่งของบ้าน ในแบบที่กำหนดเองได้ตามต้องการ

กระเบื้องเซรามิกจะเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า ส่วนในเรื่องของราคานั้น ถือว่าไม่ต่างกันมาก แต่ต้องเทียบเกรด และรุ่นให้ดี เพราะเพียงแค่ความหนาต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นกระเบื้องเซรามิกหรือกระเบื้องไวนิล ราคาก็จะแตกต่างกันแล้ว

8.ประโยชน์ทางอ้อมที่ไม่คาดคิด

กระเบื้องไวนิลมีข้อดีอย่างหนึ่งที่หลายๆ คนอาจมองข้ามไป นั่นคือ ความสามารถในการเก็บเสียง และป้องกันอุบัติเหตุความเสียหายจากการมีของตก ด้วยความที่เป็นพลาสติก มีความยืดหยุ่นมากกว่า เมื่อมีแก้ว หรือมีอะไรตกกระทบ ก็จะไม่ค่อยเกิดเสียงดัง

และลดความรุนแรงของการกระแทกแตกชำรุดได้มากกว่ากระเบื้องเซรามิก รวมถึงในแง่ของการกันลื่น กระเบื้องไวนิลแทบจะทุกชนิด จะกันลื่นได้ดีกว่ากระเบื้องเซรามิก

นอกเสียจากว่าเราจะเลือกใช้กระเบื้องเซรามิกชนิดที่เป็นผิวหน้าหยาบ ก็จะช่วยกันลื่นได้ แต่ก็จะขาดในเรื่องความสวยงามไป

และอีกหนึ่งประเด็นสำคัญคือเรื่องของการทำให้บ้าน ให้ห้องเย็น ทั้งกระเบื้องเซรามิกและกระเบื้องไวนิลนั้น ช่วยทำให้อุณหภูมิห้องเย็นขึ้นได้ โดยเฉพาะกระเบื้องเซรามิก ที่หากเปิดแอร์ทิ้งกำหนดรูปประจำเรื่องไว้ ก็จะเย็นเร็ว ความเย็นจะสะสมอยู่ในพื้นแล้วค่อยๆ กระจายตัวออก ทำให้ห้องเย็นได้มากขึ้น

9.ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

สำหรับบางคนที่คำนึงถึงเรื่องของความรักษ์โลก กระเบื้องเซรามิกคือคำตอบที่ชัดเจนที่สุด เพราะผลิตจากธรรมชาติแท้ๆ เมื่อแตกหักพังทลาย ก็นำกลับคืนสู่ธรรมชาติได้ง่าย นำกลับมาผลิตใช้ใหม่ได้

ที่สำคัญคือ ถ้าต้องรื้อถอนเปลี่ยนจริงๆ ก็ยังมีราคา นำไปขายต่อเป็นกระเบื้องเซรามิกมือสองได้อีก ต่างจากกระเบื้องไวนิล ที่จุดเริ่มต้นก็เป็นเคมี เป็นพลาสติกแล้ว ที่ถึงแม้จะมีการควบคุมกระบวนการผลิตอย่างดี

ยังไงก็ไม่ใช่วัสดุจากธรรมชาติ เมื่อถึงคราวต้องทิ้ง การเผาก็จะไม่ได้ตอบโจทย์กับการรักษ์โลกมากนัก การฝังกลบก็ยังกลายเป็นขยะที่อาจมีพิษอยู่ดี ดังนั้นแล้ว ในวงจรของการเป็นวัสดุที่สุดท้ายต้องสิ้นอายุการใช้งาน กระเบื้องเซรามิกถือว่าเป็นมิตรต่อโลกและสิ่งแวดล้อมมากกว่ากระเบื้องไวนิล

จากการเปรียบเทียบข้อดีข้อเด่นของกระเบื้องไวนิลและกระบื้องเซรามิกนั้น จะเห็นได้ว่า ส่วนใหญ่แล้วกระเบื้องเซรามิกจะตอบโจทย์ในหลายๆ ด้านมากกว่า แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่า กระเบื้องไวนิลไม่ดี

เพราะสุดท้ายแล้ว เราจะต้องตอบให้ได้ว่า เราต้องการกระเบื้องแบบไหนกันแน่ ซึ่งถ้าต้องการกระเบื้องลายไม้สวยๆ หรูหรา ปูง่ายๆ เปลี่ยนง่าย ติดตั้งง่าย แข็งแรงทนทาน

กระเบื้องไวนิลก็คือคำตอบที่กระเบื้องเซรามิกเทียบไม่ได้อยู่ดี ดังนั้น ก่อนจะตัดสินใจซื้อกระเบื้อง ก็ต้องทบทวนดูความต้องการของตัวเองให้รอบคอบ ดูความเหมาะสมกับฟังก์ชั่นการใช้งาน แล้วทุกการเลือกซื้อกระเบื้อง จะไม่ทำให้ผิดหวัง และต้องมานั่งปวดหัวภายหลัง

Porcela ใช้คุกกี้เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น
อ่านนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy) และนโยบายคุกกี้ (Cookie Policy)