ปฏิเสธไม่ได้เลยว่ากระเบื้องเซรามิค ถือเป็นหนึ่งในประเภทกระเบื้องที่ได้รับความนิยมสูงมาก ด้วยคุณภาพที่แข็งแรงทนทาน และมีลวดลายสีสันให้เลือกหลากหลาย ทำให้สามารถมิกซ์แอนด์แมทช์ได้กับบ้านทุกสไตล์ และรังสรรค์ความงดงามให้เกิดขึ้นได้ตามแต่ใจที่เจ้าของบ้านต้องการ แต่ถึงแม้จะมีข้อดีมากมายอย่างไรก็ตาม ขึ้นชื่อว่าของใช้ ก็มีโอกาสที่จะเสื่อม พัง เสียไว หรือถูกทำให้หม่นหมองได้ทั้งนั้นตามกาลเวลา ซึ่งเพื่อเป็นการทำให้กระเบื้องเซรามิก สามารถที่จะโชว์ความโดดเด่นในตัวเองได้อย่างยาวนานและมีประสิทธิภาพแล้ว วันนี้เราจะพาไปพบกับแนวทางการดูแลรักษากระเบื้องเซรามิคแบบง่ายๆ ที่จะทำให้เราสามารถดื่มด่ำกับความงดงามและใช้งานได้อย่างยาวนานที่สุดกัน
เมื่อเกิดสิ่งสกปรกหก เลอะบนกระเบื้องเมื่อไร ให้รีบทำความสะอาดออกโดยเร็วที่สุด อย่าปล่อยทิ้งไว้นานจนทำให้คราบสกปรกซึมลึกลงในเนื้อกระเบื้อง จนทำให้ล้างทำความสะอาดออกยาก
กระเบื้องเซรามิคนั้นถือเป็นกระเบื้องที่ทำความสะอาดได้ง่าย ไม่จำเป็นต้องใช้สารซักล้างที่มีสารเคมีอะไรมากมาย เพียงแค่ใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นหรือน้ำร้อนเช็ดทำความสะอาดหลังเกิดความสกปรก ก็สามารถเคลียร์คราบออกได้แล้ว หรือจะใช้เป็นผ้าชุบน้ำผสมผงซักฟอกก็ได้ แต่ข้อควรระวังคือ ผงซักฟอกจะต้องเป็นชนิดที่ไม่รุนแรงมาก เพราะอาจส่งผลกระทบต่อสีและลวดลายของกระเบื้องที่ซีดอ่อนลงได้
หมั่นทำความสะอาด กวาด ปัด ฝุ่น บนกระเบื้องทุกวัน เพื่อไม่ให้มีฝุ่นคราบเกาะจนติดค้างแน่นสะสม ในขณะเดียวกันก็พยายามเช็ดให้แห้งอยู่เสมอ เพื่อไม่ให้เกิดความชื้นจับตัวกับฝุ่นสกปรก จนเกิดเป็นคราบเกาะติดฝังลึก การกวาดปัดฝุ่นออกเป็นประจำ และใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นเช็ดทำความสะอาด ก่อนจะใช้ผ้าแห้งเช็ดให้แห้งนั้น จะช่วยทำให้กระเบื้องเซรามิคมีความเงางามและสีสัดสดใสอยู่เสมอ
เทคนิคพิเศษในการขจัดทั้งคราบสกปรกและกลิ่นที่ติดฝังอยู่บนกระเบื้อง สามารถทำได้โดยการใช้น้ำสมสายชูผสมน้ำแล้วเช็ดทำความสะอาด ซึ่งวิธีนี้ถือเป็นวิธีที่ดีและปลอดภัยมากกว่าการใช้ผงซักล้างที่ผสมสารเคมี โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับในบ้านที่มีสมาชิกเป็นเด็ก ถือว่าเป็นทางเลือกในการทำความสะอาดที่ปลอดภัยมากกว่า
ทำความสะอาดร่องยาแนวเป็นประจำ หรือปิดร่องยาแนวให้เรียบร้อยเลยจะถือเป็นทางเลือกที่ดี เพื่อป้องกันความสกปรกฝังในร่องยาแนว และทำให้เกิดสีของความหมองคล้ำ จนทำลายความสวยงามของห้องแนวทางในการทำความสะอาดร่องยาแนว สามารถทำได้โดยการผสมไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์กับน้ำ แล้วใช้แปรงสีฟันจุ่มเพื่อนำมาขัดคราบสกปรกออก
ต่อให้กระเบื้องจะแข็งแรงมากแค่ไหน มีคุณสมบัติที่ง่ายต่อการดูแลรักษาและทำความสะอาดเพียงใด แต่ถ้าเจ้าของบ้านไม่ใส่ใจที่จะดูแลอย่างถูกต้อง พิถีพิถัน สุดท้ายแล้วกระเบื้องก็จะเสื่อมประสิทธิภาพไปก่อนเวลาอันควรในที่สุด สำหรับกระเบื้องนั้น นับว่าเป็นวัสดุสำคัญที่เป็นหน้าเป็นตาของบ้านเป็นอย่างมาก คือเราสัมผัส มองเห็นกระเบื้องได้ทุกวัน แขกไปใครมาก็เห็นและสัมผัสกระเบื้องได้เช่นเดียวกันกับเรา ดังนั้น หากเราดูแลกระเบื้องไม่ดี ทำความสะอาดกระเบื้องไม่ดี ก็จะทำให้บ้านของเราตกอยู่ในบรรยากาศที่ไม่สดใส ไม่น่ามอง และทำให้ความสุขของการอาศัยอยู่ในพื้นที่นั้นๆ ลดน้อยตามลงไปได้นั่นเอง